วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

IPv4

IPv4 มีขนาด 32 bit ถูกแบ่งออกเป็น 4 ชุดด้วยเครื่องหมายจุด โดยแต่ละชุดมีขนาด 8 bitClassful Addressingเริ่มแรกเลย IPv4 มีการแบ่ง IP Address ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Network ID และ Host ID ซึ่งการแบ่งเป็น 2 ส่วนนี้ (Two-level addressing hierarchy) จะมีชื่อเรียกว่า Classful addressing อย่างไรก็ตามการนำ IP Address แบ่งเป็น2 ส่วนนี้ ทำให้การใช้งาน IP Address ไม่มีประสิทธิภาพซึ่งจะกล่าวถึงในภายหลังต่อไปแล้ว Network ID กับ Host ID คืออะไรหล่ะ

Network ID คือ Network ID ของ IP Address จะเป็นส่วนที่ระบุว่าอุปกรณ์อยู่ในโครงข่ายใด และ Network ID จะเป็นส่วนที่ Router ใช้สำหรับหาเส้นทาง (เช่น 192.168.1 เขียนเต็มรูปแบบคือ 192.168.1.0)Host ID คือ Host ID ของ IP Address จะเป็นส่วนที่ระบุว่าอุปกรณ์อยู่ในตำแหน่งใดของ Network (เช่น .2 เขียนเต็มรูปแบบคือ 192.168.1.2)ยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจมากขึ้น1.1) กรณีเราที่จดหมาย เราก็จะจ่าที่อยู่ที่หน้าซองดังนี้18 ถ.รังสิต-องครักษ์ ธัญบุรี ปทุมธานี 121301.2) จดหมายจะถูกส่งไปยังที่ทำการไปรษณีย์ จากนั้นก็จะดูว่ารหัสไปรษณีย์อะไร- ถ้าเป็นรหัสไปรษณีย์ของที่ทำการไปรษณีย์นั้น จดหมายก็จะถูกส่งต่อไปยังบ้านปลายทางเลย- ถ้าเป็นรหัสไปรษณีย์ของที่ทำการไปรษณีย์อื่น จดหมายก็จะถูกส่งต่อไปยังที่ทำการไปรณีย์ปลายทาง จากนั้นจดหมายจึงจะถูกส่งต่อไปยังบ้านปลายทางต่อไป2.1) กรณีเราส่ง E-mail เราก็จะทำการส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทาง เราก็จะกรอก url (จริงก็คือ IP Address) ดังนี้192.168.1.22.2) ข้อมูลจะถูกส่งไปยัง Router จากนั้น Router ก็จะดูว่าเป็น

Network ID อะไร- ถ้าเป็น Network ID ของ Router นั้น ข้อมูลก็จะถูกส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทางที่อยู่ภายใน Router- ถ้าเป็น Network ID ของ Router อื่น ข้อมูลก็จะถูกส่งต่อไปยัง Router ปลายทาง จากนั้นข้อมูลจึงจะถูกส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทางต่อไปสรุป1. IPv4 จะมีกลุ่มตัวเลขอยู่ 4 ชุด แต่ละชุดขั้นด้วยจุด2. Classful Addressing จะมีรูปแบบเป็น 2 ส่วนคือ Network ID กับ Host ID3. Network ID คือส่วนที่ระบุว่า IP Address อยู่ในโครงข่ายใด และเป็นส่วนที่ Router ไว้ใช้ค้นหาเส้นทาง4. Host




Ipv6
 กลไกสำคัญในการทำงานของอินเทอร์เน็ต คือ อินเทอร์เน็ตโพรโตคอล (Internet อินเทอร์เน็ตส่วนประกอบสำคัญของอินเทอร์เน็ต
โพรโตคอลได้แก่ หมายเลขอินเทอร์เน็ตแอดเดรส หรือ ไอพีแอดเดรส (IP address) ที่ใช้ในการอ้างอิงเครื่องคอมพิวเตอร์และอุป
กรณ์เครือข่ายต่างๆบนอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เปรียบเสมือนการใช้งานโทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารกัน จะต้องมีเลขหมายเบอร์โทรศัพท์
เพื่อให้อ้างอิงผู้รับสายได้ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในอินเทอร์เน็ตก็ต้องมีหมายเลข IP Address ที่ไม่ซ้ำกับใคร

   หมายเลข IP address ที่เราใช้กันทุกวันนี้ คือ Internet Protocol version 4 (IPv4) ซึ่งเราใช้เป็นมาตรฐานในการส่งข้อมูลใน
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ปีค.ศ. 1981 ทั้งนี้การขยายตัวของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต อย่างรวดเร็ว
นักวิจัยเริ่มพบว่าจำนวนหมายเลข IP address ของ IPv4 กำลังจะถูกใช้หมดไป ไม่เพียงพอกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตในอนาคต และ
หากเกิดขึ้นก็หมายความว่าเราจะไม่สามารถเชื่อมต่อเครื่อข่ายเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นได้อีก ดังนั้นคณะทำงาน IETF (The
Internet Engineering Task Force) ซึ่งตระหนักถึงปัญหาสำคัญดังกล่าว จึงได้พัฒนาอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นใหม่ขึ้น คือ รุ่นที่หก
(Internet Protocol version 6; IPv6) เพื่อทดแทนอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นเดิม โดยมีวัตถุประสงค์ IPv6 เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง
ของตัวโพรโตคอล ให้รองรับหมายเลขแอดเดรสจำนวนมาก และปรับปรุงคุณลักษณะอื่นๆ อีกหลายประการ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ
และความปลอดภัยรองรับระบบแอพพลิเคชั่น (application) ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล
แพ็กเก็ต (packet) ให้ดีขึ้น ทำให้สามารถตอบสนองต่อการขยายตัวและความต้องการใช้งานเทคโนโลยีบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใน
อนาคตได้เป็นอย่างดี